วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2560

อีสานบ้านเฮา สิพาเที่ยว

เที่ยว "บึงกาฬ" กันเด้อ

      "เที่ยวบึงกาฬจะได้รุ้ว่ามีดี  มีทั้งวัดตลาดนัดไทย-ลาว
ให้รู้การสร้างมาของเรื่องราว   เชิญมาชมร่วมกันให้สุขสันต์ "

        
จังหวัดบึงกาฬ
           เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง มีทั้งน้ำตก ภูเขา แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก อาจเพราะเป็นจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ไกลถึง 751 กิโลเมตร ทั้ง ๆ ที่แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดบึงกาฬมีอยู่มาก เช่น วัดอาฮงศิลาวาส, แก่งอาฮง, วัดสว่างอารมณ์, ตลาดนัดไทย-ลาว, บึงโขงหลง, เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว, น้ำตกเจ็ดสี เป็นต้น

          จังหวัด" บึงกาฬ " ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเป็นจังหวัดใหม่ที่แยกออกมาจากหนองคาย
เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่กำลังพัฒนาโดยมี 8 อำเภอใหญ่ ๆ ได้แก่...
  1. อำเภอเมืองบึงกาฬ
  2. อำเภอปากคาด
  3. อำเภอโซ่พิสัย
  4. อำเภอเซกา
  5. อำเภอบึงโขงหลวง
  6. อำเภอพรเจริญ
  7. อำเภอศรีวิไล
  8. อำเภอบุ่งคล้า
         ซึ่งแต่ละอำเภอจะมีหมู่บ้านเล็กๆเป็นของตนเอง จังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดที่อยู่ริมขวานไทยของบ้านประเทศไทย และมีแม่น้ำโขงกั้นอาณาเขตระหว่างเพื่อนบ้าน ( สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว)


         มารู้จัก " ภูทอก "

สถานที่ ที่จะแนะนำที่สุดคือ " ภูทอก "
ตั้งอยู่ที่ อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ

ภูทอกมี 2 ลูกคือ ภูทอกใหญ่ และภูทอกน้อย นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถชมได้คือ ภูทอกน้อย ส่วนภูทองใหญ่อยู่ใกล้ๆกัน แต่ไม่ได้เปิดให้เข้าชมแต่ไฮไลท์เด็ดสุดที่เราไม่อยากให้คุณพลาดเลย คือการไปเยี่ยมชม "วัดภูทอก" หรือ "วัดเจติยาคีรีวิหาร" ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม เหมาะแก่การบำเพ็ญธรรมของภิกษุ-สามเณรและพุทธศาสนิกชนทั่วไป มีความเงียบสงบ สวยงามด้วยธรรมชาติแวดล้อม แฝงไว้ซึ่งเสน่ห์ทางธรรม โดยมี "พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ" เป็นผู้ก่อตั้ง


         


จุดเด่นของภูทอก
ก็คือ สะพานไม้และบันไดขึ้นชมทัศนียภาพรอบ ๆ ภูทอก แบบ 360 ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปีเต็ม จากชั้น 1 – ชั้นที่ 7 จะมีบันไดไม้ให้เดินแบบตรงทอดยาวจนถึงจุดสูงสุดของยอดภูทอก และตั้งแต่ชั้นที่ 3 เป็นต้นไปนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมแบบสะพานเวียนรอบเขา ซึ่งจะได้เห็นมุมมองที่แตกต่างไปเรื่อย ๆ ในแต่ละย่างก้าวโดยในชั้นที่ 5 ถือว่าเป็นชั้นที่สำคัญที่สุด จะมีศาลาขนาดใหญ่ พระพุทธรูป กุฏิพระ และเป็นที่เก็บศพของพระอาจารย์จวนด้วย พื้นที่สะอาดกว้างขวาง ดูแล้วร่มเย็นมาก เหมาะสำหรับการนั่งสวดมนต์ปฏิบัติธรรมสำหรับนักแสวงบุญ หรือผู้ที่ใฝ่หาความสงบ ตลอดตามช่องทางเดินจะมีถ้ำอยู่หลายจุด เช่น ถ้ำเหล็กไหล ถ้ำแก้ว ถ้ำฤาษี ฯลฯ มีที่ให้นั่งพักสำหรับความอ่อนล้าระหว่างทางเดินเป็นระยะ